แจกพิกัดสุดชิล! 15 ที่เที่ยวกาญจนบุรี ไปแล้วจะร้องว้าว!

อากาศดีๆ แบบนี้ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้ premiumworldtour.info ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรีสุดฮิต เช่น น้ำตกเอราวัณ แม่น้ำแคว และสังขละบุรี ฯลฯ ทั้งนี้กาญจนบุรียังมีที่เที่ยวอีกมากมายให้คุณได้ไปสัมผัส รู้แบบนี้แล้วลองชวนเพื่อนหรือสะกิดคนข้างๆ ไปเที่ยวเมืองกาญกันเถอะ ตามมาดูกันเลยว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง…

1. สะพานมอญ สังขละบุรี

ใครมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีต้องไม่พลาดกับสถานที่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญนั่นก็คือ “สะพานมอญ” เป็นสะพานไม้ที่มีความสำคัญต่อคนไทยและคนมอญ “สะพานอุตตมานุสรณ์” หรือ “สะพานมอญ” ตัวสะพานจะทอดยาวข้ามแม่น้ำซองกาเลีย หากคุณได้ลองเดินข้ามสะพานคุณจะได้มาพบกับชุมชนชาวมอญที่ยังหลงเหลืออยู่บางส่วน ไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดคือวัดวังก์วิเวการาม (วัดเก่า) เมืองบาดาล เมื่อเขื่อนเขาแหลมถูกสร้างขึ้น วัดนี้จึงได้จมลงสู่ใต้น้ำ เมื่อฤดูแล้งมาถึงจึงสามารถเห็นวัดได้อย่างชัดเจน โดยนั่งเรือหางยาวมาเที่ยวชมความงามของวัดเก่าและทะเลสาบเขื่อนเขาแหลมได้ ค่าบริการนั่งเรือประมาณ 200-300 บาท/คน

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากอำเภอเมืองกาญจนบุรีมุ่งหน้าสู่อำเภอทองผาภูมิ หลักกิโลเมตรที่ 125 ทางหลวงหมายเลข 323 พบสามแยกทองผาภูมิ  แล้วเลี้ยวขวาไปสู่อำเภอสังขละบุรี

2. ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ

เที่ยวถ้ำกระแซ สถานที่ศักดิ์สิทธิที่ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาเหนือคุ้งแม่น้ำแควน้อย ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ซึ่งในบริเวณของถ้ำติดกับทางรถไฟสายมรณะ ภายในถ้ำกระแซมีพระพุทธรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพร  ไฮไลท์ที่สำคัญของทางรถไฟสายมรณะ เป็นเส้นทางที่ผ่านแม่น้ำแควใหญ่โค้งมรณะที่น่ากลัว อีกฝั่งเป็นหน้าผาเหวลึกรถไฟต้องวิ่งเลาะทางริมเขา จนมาถึงบริเวณถ้ำกระแซ เป็นจุดสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับธรรมชาติตลอดทั้งเส้นทาง โดยสามารถนั่งรถไฟมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายอำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ  (ทางหลวงหมายเลข 323) เมื่อผ่านวัดหลวงตามหาบัวมีทางแยกซ้ายไปอำเภอไทรโยคให้เลี้ยวซ้ายทางหลวง 3343 มีป้ายบอกไปถ้ำกระแซ  วิ่งตามเส้นทางหลัก ผ่านหน้าโรงพยาบาลไทรโยคแล้วเลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟที่อยู่ทางซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกที แล้ววิ่งขนานทางรถไฟไปจนสุดทาง

3. ช่องเขาขาด

ช่องเขาขาดหรือช่องนรกตั้งอยู่ที่กองการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา บริเวณกิโลเมตรที่ 64-65 บนทางหลวงหมายเลข 323 (กาญจนบุรี –ไทรโยค –ทองผาภูมิ) เป็นสถานอนุสรณ์แสดงถึงความโหดเหี้ยมของทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยคนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ช่องเขาขาดแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเส้นทางรถไฟสายไทย –พม่ามีความยาว 73 เมตร ลึกสูง 25 เมตร เป็นช่องหินที่ตัดเจาะด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยของเชลยศึกชาวออสเตรเลียและชาวอังกฤษ ซึ่งสร้างเสร็จภายใน 3 เดือน ที่ญี่ปุ่นต้องสร้างผ่านช่องเขานี้ เพื่อลำเลียงอาหารไปเลี้ยงทหารญี่ปุ่นในประเทศพม่า ที่เป็นฐานทัพญี่ปุ่นซึ่งตั้งมั่นอยู่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเหตุการณ์ที่น่าหดหู่เมื่อได้มาเที่ยวชมเมื่อมาเที่ยวที่ช่องเขาขาด หากได้ดูภาพในพิพิธภัณฑ์แล้วต้องไม่พลาดที่จะมาดูสถานที่จริง เป็นช่องเขาขนาดใหญ่ที่มีรางรถไฟเก่าหลงเหลือซากอยู่ ระหว่างทางใช้เวลาการเดินทางผ่านหินที่เป็นก้อนกรวดก้อนใหญ่ และสองข้างทางเป็นป่าไผ่ และไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น การเดินทางมาเที่ยวชมควรใส่รองเท้าผ้าใบและควรเตรียมน้ำดื่มไปด้วย

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากตัวเมืองกาญจนบุรี – พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด 80 กิโลเมตร วิ่งผ่านถนนสายหลัก ถนนแสงชูโต มาข้ามทางรถไฟ ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค ทางหลวงหมายเลข 323 วิ่งผ่านน้ำตกไทรโยคน้อยไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร ผ่านโรงเรียนบ้านพุเตย ด้านซ้ายมือเป็นทางเขาพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดเลยค่ะ

4. น้ำพุร้อนหินดาด

เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่คนนิยมมาแช่น้ำที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุช่วยบำบัดรักษาโรคต่างๆ ได้ ถูกค้นพบโดยทหารญี่ปุ่นที่เคยมาสร้างทางรถไฟสายมรณะ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 น้ำพุร้อนแห่งนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่องการช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก  ระบบเผาผลาญดีขึ้น ผิวพรรณสดใส ผ่อนคลาย และลดความเครียด การรักษาความสะอาดและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอยู่ในความดูแลของอบต.หินดาด มีบ่อน้ำพุที่เป็นบ่อที่มีอุณหภูมิช่วง 40-100 องศาเซลเซียส  อุณหภูมิแช่ประมาณ 45-55 องศาเซลเซียส และมีบ่อน้ำพุเย็นที่อยู่ติดกัน คั้นด้วยทางเดินตรงกลาง มีบ่อน้ำที่ไหลมาจากผาตาด สามารถเล่นน้ำได้ และหากว่ามาแช่น้ำพุร้อนหินดาดจะมีการบริการนวดผ่อนคลายเส้น จุดนวดแผนโบราณ และนวดฝ่าเท้าไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

การเดินทางโดยรถยนต์ : เริ่มจากถนนสายหลักตัวเมืองกาญจนบุรีถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปอำเภอไทรโยค –ทองผาภูมิ ผ่านน้ำตกไทรโยคน้อย ไทรโยคใหญ่ ถึงป้ายหลักกิโลเมตรที่ 180 ป้ายกิโลเมตรใหม่เส้น 323 เลี้ยวขวาไปน้ำพุร้อนหินดาด มีป้ายบอก เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 300 เมตร น้ำพุร้อนอยู่ซ้ายมือ มีลานจอดรถด้านในค่ะ

5. เหมืองปิล็อก หมู่บ้านอีต่อง

เหมืองปิล็อก ครั้งหนึ่งเป็นเหมืองแร่ที่รุ่งเรืองอย่างสุดขีดเมื่อหลาย 10 ปีก่อน มีพม่ามาลักลอบขุนแร่ในตำบลปิล็อกนั้นไปขายให้ทหารอังกฤษ ทำให้กรมทรัพยากรธรณีสมัยนั้นนำคณะช่างมาสำรวจและพบว่ามีแร่ธาตุดีบุกและวุลแฟลมอยู่มากมาย จึงเปิดตัวโดย องค์การเหมืองแร่ กรมโลหะกิจเข้ามาทำกิจการเหมืองแร่ แต่เกิดวิกฤตเกี่ยวกับราคาแร่ เพราะมีเทคโนโลยีใหม่ก้าวเข้ามา  และเหมืองแร่ต่างๆ ในตำบลปิล็อกก็ต้องปิดตัวลง ทิ้งไว้แต่ซากเก่าๆ ไว้ ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีทั้งคนพม่า มอญ ทวาย เนปาล ที่พลัดถิ่นมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมในหมู่บ้านอีต่องจะเห็นถึงมนต์เสน่ห์และความประทับใจกับบรรยากาศที่เงียบสงบ มีจุดชมวิวเนินช้างศึก เนินเสาธง เหมืองสมศักดิ์ และอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีที่ให้พักกางเต้นท์ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน และมีบ้านต้นไม้ที่เรียกว่าบ้านทาร์ซาน

การเดินทางโดยรถยนต์ : รถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ประมาณ 120 กิโลเมตร และจากตัวเมืองกาญจนบุรี–อำเภอทองผาภูมิ 146 กิโลเมตร และจากตัวอำเภอทองผาภูมิ – เหมืองปิล็อก บ้านอีต่อง ประมาณ 70 กิโลเมตร

6. วัดถ้ำเสือ

หากมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ถ้ามีโอกาสอยากให้มาเที่ยวชมวัดถ้ำเสือ วัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรี เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2516 ชื่อหลวงพ่อชินประทานพร เมื่อมากราบสักการะที่วัดแห่งนี้จะพบมหาวิหารเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทสูง 9 ชั้น ชั้นบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อันเชิญมาจากประเทศอินเดีย ส่วนที่ติดกับวัดถ้ำเสือคือวัดเขาน้อยที่มีบรรยากาศเงียบสงบ สามารถชมวิวทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำแม่กลอง และมองเห็นทุ่งนาสีเขียวขจี อีกทั้งชมรอยพระพุทธบาทซ้าย ซึ่งมีน้ำซึมตลอดเวลา เชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาเที่ยววัดถ้ำเสือมีจุดให้ชมวิวได้ 360 องศามีบันไดนาคขึ้นเขา 158 ขั้น และมีรถรางไฟฟ้าสำหรับขึ้นไปด้านบน ค่าบริการ 10 บาทค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากตัวจังหวัดกาญจนบุรีมุ่งหน้าสู่ อ.เมืองกาญจนบุรี สังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไป อ. ท่าม่วง เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางถนนแสงชูโตเก่า ผ่านโรงพยาบาลท่าม่วง ถึงหอนาฬิกาให้เลี้ยวซ้าย ไปตามทาง 1 กม. พบแยกเข้าวัดม่วงชุม เลี้ยวซ้ายไปตามทางมีป้ายบอกว่าวัดถ้ำเสืออยู่ติดกับวัดน้อย

7. โบสถ์แสตนเลส ณ วัดป่าลำขาแข้ง

ถูกสร้างขึ้นจากประชาชนที่ช่วยกันบริจาคสร้างพระพุทธรูปแสตนเลสหนึ่งเดียวในโลกที่มีความงามอันวิจิตรงดงาม และเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนพรรษาครบรอบ 80 พรรษา โดยโบสถ์นี้มีความสวยงามอยู่ตรงที่เมื่อแสงแดดส่องประกายมาจะมีความสวยงามของลายไทย เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นลวดลายฉลุ ข้างในโบสถ์มีหน้าต่างที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย การก่อสร้างได้อัดฉนวนไว้ตรงกลางกันความร้อนได้ดี มีพื้นที่เป็นหินแกรนิตโปร่งสบายและไม่ไกลมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ ขนาดกว้าง 8 เมตร สูง 12 เมตร ทำด้วยแสตนเลสตั้งตระหง่านหันหน้าสู่แม่น้ำใหญ่ มาเที่ยววัดป่าลำขาแข้งได้โดยการนั่งเรือหางยาวจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปชมความงามของโบสถ์แห่งนี้ได้  เพราะวัดตั้งอยู่กลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่สามารถเดินทางด้วยพาหนะอื่นค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ : เดินทางไปวัดนี้ที่อำเภอด่านช้าง สุพรรณบุรี แวะจอดต่อรถที่วัดทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี แล้วต่อรถกระบะรับจ้างอีกคันละ 1,000-1,500 บาท เดินทางต่อไปอีก 22 กม. ไปที่ท่าเรือ ท่าแพ แล้วล่องเรือ (แพ) อีกประมาณ 10 กม. จะถึงปากลำขาแข้งที่หมายปลายทาง หากท่านมารถกระบะยกสูง ก็สามารถไปที่ท่าเรือได้เลย แต่ต้องผ่านเส้นทางถนนลูกรังและป่าค่ะ

8. สะพานข้ามแม่น้ำแคว

ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ประมาณ 61700 คน และกรรมกร ชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า จำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายข้ามแม่น้ำแควแห่งนี้การ ก่อนสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก การก่อสร้างเริ่มจากหัวสะพานจะเป็นไม้ ตรงกลางเป็นสะพานเหล็ก ซึ่งในสมัยก่อนได้ถูกระเบิดทำให้สะพานหักรัฐบาลไทยจึงได้ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กที่เป็นรูปเหลี่ยม ด้วยความโด่งดังของสะพานจึงได้เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดบนเส้นทางรถไฟสายไทย –พม่า การทิ้งระเบิดครั้งนั้นทำให้สะพานข้ามแม่น้ำแควถูกนำมาสร้างเป็นจิตรกรรมฝาผนังและภาพศิลปะสามมิติในพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 และพิพิธภัณฑ์เชลยศึกที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพาน และบริเวณสะพานยังมีร้านขายสินค้า เพชร พลอย อัญมณีและ ของที่ระลึกมากมายอีกด้วย  สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินข้ามสะพานรถไฟก็สามารถใช้บริการรถราง (Fairmong) ที่มีให้บริการทุกวัน โดยวิ่งจากสถานีไปยังอีกฝั่งแม่น้ำ แล้ววิ่งกลับมาส่ง ณ จุดเดิม เก็บค่าโดยสารคนละ 20 บาท ใช้เวลาประมาณ  15 นาที ค่ะ  สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินข้ามสะพานรถไฟก็สามารถใช้บริการรถราง (Fairmong) ที่มีให้บริการทุกวัน โดยวิ่งจากสถานีไปยังอีกฝั่งแม่น้ำ แล้ววิ่งกลับมาส่ง ณ จุดเดิม เก็บค่าโดยสารคนละ 20 บาท ใช้เวลาประมาณ  15 นาที และทุกปีประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน -ธันวาคม จะจัดงานเพื่อรำลึกถึงการทิ้งระเบิดทำลายสะพานโดยมีรถจักรไอน้ำและมีการแสดงพลุและดอกไม้ไฟ มีการออกร้านในงานและมีเรือหางยาวให้เช่าล่องดูแม่น้ำแควได้อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิดวันธรรมดา : เวลา 8.00น.-10.30น.  11.20น-14.00น. 15.00น-16.00น. 18.00น.-18.30น. เสาร์-อาทิตย์ : เวลา  8.00น.-9.30น. 18.00น.-18.30น.

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากถนนเส้นทางหลักเข้าสู่เมืองกาญจน์ วิ่งตรงไปตามถนนแสงชูโต ผ่านสุสานพันธมิตร ก่อนข้ามทางรถไฟ มีป้ายบอกทางเข้าไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว  วิ่งตรงไปมีทางจอดรถทางซ้ายมือ สามารถจอดรถได้หลายคัน

9. ล่องแพถ้ำมังกรทอง แม่ชีลอยน้ำ

วัดถ้ำมังกรทองเป็นวัดที่มีอายุกว่า 100 ปี มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำ วัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2447 มีเขตธรณีสงฆ์ 36 ไร่ มีบันได 95 ขั้นขึ้นไปยังวัด วัดถ้ำมังกรทองมีรอยพระพุทธบาทที่ตั้งอยู่กลางโถงและมีพระประธานอยู่ด้านใน มีถ้ำเล็กๆและหินสลับซับซ้อนกันอย่างสวยงาม เดินเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำมีไฟสว่างตลอดทาง ถ้าโผล่พ้นถ้ำต้องเดินลงไปจะเป็นป่าถ้ามาเที่ยวไม่มาทางรถยนต์ก็มีอีกเส้นทางคือการล่องแพจากตัวแพที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ด้วยการบริการของแพที่มีมากมายล่องมายังวัดถ้ำมังกรทองได้อีกด้วย ที่วัดถ้ำมังกรทองแห่งนี่มีการทำสมาธิลอยตัวของแม่ชีลอยน้ำที่มีคนรู้จักทั่วไป เปิดทุกวันมีค่าเข้าชม 10 บาทในปัจจุบันเป็นรุ่นศิษย์สืบทอดต่อมา

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากถนนแสงชูโตใช้เส้นทาง 3429 แยกจากหน้าศาลากลางจังหวัดตรงไปข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลองผ่านป้อมตำรวจแม่กลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกวัดถ้ำเขาแหลมไปอีก 4 กม. พบทางเข้าวัดถ้ำมังกรทองอยู่ด้านซ้ายมือ

10. ปางช้างไทรโยค

ปางช้างไทรโยคที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นสถานที่ธรรมชาติที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธ์ มีนักท่องเที่ยวมาชมช้างที่มีอยู่จำนวน 40 เชือก มีธรรมชาติร่มรื่นบรรยากาศดีและสายน้ำเย็นสบาย คุณจะได้มีส่วนร่วมในการดูแลช้างอย่างใกล้ชิด สามารถชมช้างน้อยที่มีความชาญฉลาดและน่ารัก ไฮไลท์ที่น่าสนใจเมื่อมาเที่ยวที่นี่คือการให้อาหารช้าง อาบน้ำให้ช้าง ปลูกป่าให้ช้าง เป็นกิจกรรมที่มอบความสุขให้นักท่องเที่ยวอย่างมาก ขอบอกเลยว่าคุณจะได้ประทับใจกับความฉลาดน่ารักของช้างทุกเชือกที่ตั้ง : 30/2 หมู่ที่ 3 บ้านลุ่มผึ้ง ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และมีการแสดงช้างทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00น. -16.00น

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากตัวเมืองกาญจนบุรีไปตามเส้นทางไทรโยค – ทองผาภูมิ ประมาณกิโลเมตรที่ 45 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

11. เขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนเขาแหลม) ล่องแพ

เขื่อนเขาแหลมเป็นเขื่อนที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก สร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นน้ำแม่น้ำแควน้อยที่เป็นอ่างเก็บน้ำอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี สถานที่นี้เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรก สามารถมาเที่ยวชมวิวทิวทัศน์เล่นน้ำพายเรือเล่นในอ่างเก็บน้ำ และชมพระอาทิตย์ตกดิน ณ ชุดชมวิวป้อมปี่ เป็นจุดที่สวยที่สุดในภาคตะวันตก หากมาเที่ยวในเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์จะได้เห็นหมอกและสัมผัสอากาศเย็นๆ

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากเมืองกาญจนบุรี วิ่งถนนแสงชูโตเป็นหลัก ถึงแก่งเสี้ยนเลี้ยวซ้ายป้ายอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ  และก่อนถึงอำเภอทองผาภูมิมีสามแยก เลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี ผ่านวัดท่าขนุน น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกไดช่องถ่อง  อุทยานแห่งชาติเขาแหลมอยู่ขวามือค่ะ

12. สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค แอนด์แคมป์

สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค มีเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ เป็นสวนสัตว์เปิดที่เดิมเคยเป็นเหมืองพลอย และได้ยุติการทำเหมืองลงด้วยความเมตตาสัตว์ เจ้าของเหมืองแร่จึงได้ตั้งสวนสัตว์เปิดแทนเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และขยายพันธ์สัตว์นานาชนิดให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงชีวิตสัตว์อย่างใกล้ชิด มาเที่ยวที่แห่งนี้สามารถถ่ายรูปกับยีราฟได้อีกด้วย สัตว์ที่นี่มีมากและไม่กลัวคน เช่น กวางฟลอโลว์สีแฟนซี หมีควาย เนื้อทราย เสือโคร่ง สิงโตอัฟริกา กวางดาวอินเดีย กวางฟลอโลว์สีขาว นกอีมู ยีราฟ ม้าลาย นกกระจอกเทศ นกฟลามิงโก้ เสือ สิงโต และเสือดาว ที่สวนสัตว์เปิดแห่งนี้มีจุดถ่ายรูปกับเสือและนกแก้วมาคอว์ และที่นี่มีบ้านพักเรือนไทยกลางน้ำร่มรื่นเหมาะกับการมาเที่ยว โดยมีรถบัสคันเล็กน่ารักให้บริการนั่งให้อาหารสัตว์ มีไกด์คอยอธิบายจุดต่างๆ เราสามารถซื้ออาหารระหว่างทางเพื่อให้อาหาร สัตว์จะยื่นคอเข้ามาให้เราป้อนถึงในรถเลย มีการแสดงโชว์ช้างแสนรู้ การโชว์จับจระเข้ด้วยมือเปล่า และลานแสดงนกแก้วมาคอว์ ให้ชมทุกวันค่ะค่าบัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ 200 บาท, ต่างชาติ 550 บาท เด็ก 100 บาท, เด็กต่างชาติ 350 บาท

การเดินทางโดยรถยนต์ : ออกจากตัวจังหวัดกาญจนบุรี ห่างเมืองประมาณ 28 กิโลเมตรไปตามทางหลวงหมายเลข 3098 (กาญจนบุรี –บ่อพลอย) จนถึงกิโลเมตรที่ 21 จะเห็นป้ายสวนสัตว์เปิดทางซ้ายมือ

13. สวนน้ำ เวสท์ วันเดอร์

สวนน้ำแห่งนี้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ตะวันตก มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ มีโซนสวนสนุกเครื่องเล่นมากมาย เช่น อโลฮ่ายักษ์ สไลด์เดอร์สุดมันส์ที่คดเคี้ยวน่าหวาดเสียว น้ำวน น้ำตกจำลองขนาดยักษ์ สร้างโดยเน้นมาตรฐานสวนน้ำสากล ต้องใส่ชุดว่ายน้ำลง หรือถ้าไม่มีสามารถเช่าได้ ในที่สวนน้ำมีร้านอาหารให้ลิ้มลองรสชาติด้วยค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 300 บาท เด็กราคา 100 บาท (ส่วนสูงต้องไม่เกิน 130 เซนติเมตร)  เวลาเปิดปิด :วันจันทร์ – ศุกร์  เวลา 10.00น -18.00น.  วันเสาร์ –อาทิตย์ เวลา 10.00น.-19.00น.

การเดินทางโดยรถยนต์ : มาจากกรุงเทพฯ ถึงตัวจังหวัดเมืองกาญจน์จะมีสะพานแควใหญ่ ลงสะพานมาเลี้ยวซ้าย ผ่านมามีรีสอร์ทสวนน้ำ West Wonder อยู่ทางด้านขวามือ

14. เดอะสวนไทรโยค แอดเวนเจอร์ ปาร์ค

ที่สวนแห่งนี้มีกิจกรรมที่ท้าทายความสามารถและความกล้าให้คุณได้มาลองเล่น ได้แก่ Krasae swing เครื่องเล่นทดสอบความกล้า โดยการยืนบนหอคอยสูงถึง 10 เมตร และเจ้าหน้าที่จะดึงสะพานกลับทำให้ผู้เล่นตกสะพานลอยตัวกลางอากาศ เห็นวิวทิวทัศน์แม่น้ำแควได้อย่างเต็มตา และมีกิจกรรมอีกที่ท้าทายความกล้าคือ The Flying Train ที่โหนสลิงกระโดดจากหอคอย จากแนวจุดชมวิวที่สะพานถ้ำกระแซ และแม่น้ำแควน้อย และมีกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ที่น่าสนใจอีกคือ The Indiana Jones และ Express Train คุณสามารถมาทดสอบความกล้าที่แห่งนี้ได้ค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ : จากตัวเมืองกาญจนบุรี วิ่งบนถนนแสงชูโตถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายอำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) เมื่อผ่านวัดหลวงตามหาบัวจะเจอทางแยกซ้ายไปอำเภอไทรโยคให้เลี้ยวซ้ายทางหลวง 3343 จะมีป้ายบอกไปถ้ำกระแซ วิ่งตามเส้นทางหลักผ่านหน้าโรงพยาบาลไทรโยคแล้วเลี้ยวขวา แล้วไปข้ามทางรถไฟที่อยู่ทางซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกที แล้ววิ่งขนานทางรถไฟไปจนสุดทาง

15. หาดทรายทะเลน้ำจืด ท่าล้อ

ทะเลทรายน้ำจืดท่าล้อ เป็นหาดทรายที่อยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง เป็นหาดทรายหยาบที่ลาดลงสู่แม่น้ำแม่กลองมีความยาว 500 เมตร ที่แห่งนี้เดิมเป็นชุมชนร่วมสมัย บริเวณหาดทรายแห่งนี้มีทัศนียภาพด้านหลังเป็นภูเขา มีคุ้งน้ำที่กว้างคล้ายทะเลสาบ มีลมพัดเข้าหาฝั่งตลอดเวลา บรรยากาศไม่แตกต่างกับชายทะเลเท่าใดนัก บริเวณหาดทรายนั้น มีการบริการเตียงผ้าใบเหมือนชายหาดทั่วไป มีอาหารขาย มีร่มกางไม่ให้ร้อน และมีห่วงยางให้เช่า ด้านหลังเป็นวิวภูเขาสวยงาม ไฮไลท์หาดทรายทะเลน้ำจืดท่าล้อ คือ มีเรือถีบล่องแม่น้ำแม่กลอง ครึ่งชั่วโมง 40 บาท เรือพาย และเจ็ตสกี และเครื่องเล่นลมเป่าสำหรับเด็กๆ ไว้คอยให้บริการค่ะ

การเดินทางโดยรถยนต์ : มุ่งหน้ามาจังหวัดกาญจนบุรีโดยผ่านจังหวัดนครปฐม เข้าอำเภอบ้านโป่ง มุ่งหน้าไปจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ และก่อนถึงจังหวัดมีทางเข้าวัดท่าล้อก่อนถึงสามแยกท่าล้อ และอยู่เยื้องๆ กับร้านรจนาก่อนถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 9-10 กม.

เป็นยังไงกันบ้างคะ? เห็นแต่ละที่แล้วอยากเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันเลยใช่ไหมล่ะ^^ จะไปเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัวหรือจัดกรุ๊ปไปเฮฮากับเพื่อนก็ได้ เพราะต้องยอมรับเลยว่ากาญจนบุรีของเขาน่าเที่ยวจริงๆ แถมแต่ละที่ก็เหมาะจะไปเที่ยวทั้งปีและทุกฤดู เอาเป็นว่าว่างเมื่อไหร่ก็ไปได้ตลอดเวลา ไม่ไกล้ไม่ไกลมากจากกรุงเทพ ไปวันเดียวก็เฟี้ยว หรือจะพักค้างคืนซักสองสามคืนก็ยังได้ ที่พักกาญน่ารักราคาถูกๆ ก็มีเยอะแยะมากมาย เอาไว้โอกาสหน้ามาติดตามแนะนำที่พักกาญจนบุรีกันนะคะ

แหล่งข้อมูล:https://www.premiumworldtour.info/thailionair