นิกโก้ เมืองมรดกโลก ญี่ปุ่น
มาเที่ยวเมืองญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นมรดกโลกมากมายยังมาเที่ยวไม่ครบเลย หากตั้งใจมาแล้ววันนี้ พรีเมี่ยมเวิล์ดทัวร์ ขอนำเสนอ นิกโก้ เมืองมรดกโลกที่น่าท่องเที่ยวอยู่ทางตอนเหนือของ กรุงโตเกียว 140กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ 2 ชั่วโมงค่ะ พาคุณมาดูทุกซอกมุมของเมืองนิกโก้กันค่ะ ตามมาเลยค่ะ มาดูว่าทำไมเมืองนี้จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เห็นแล้ว คือบ้านเมืองเขาสะอาดมาก ทุกมุมเมืองบรรยากาศดี ๆชาวเมืองน่ารักไปกันเถอะตามเรามาค่ะ
วัดรินโนจิ(Rinnoji Temple)
วัดแห่งนี้เข้ามาจะเห็นกระถางธูป ถ้าเป็นศาลเจ้าจะไม่มีกระถางธูป ในวัดบรรยากาศดีมาก มีสวนญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์อยู่ตรงข้ามทางเข้าวัดเข้าชมมีค่าเข้าราคา300เยน ภายในมีต้นไม้ร่มรื่นมีต้นเมเปิ้ลในพิพิธภัณฑ์นั้นแสดงเกี่ยวกับโชกุน ในสมัยต่างๆ แต่ด้านในห้ามถ่ายรูป วันนี้เป็นวัดพุทธที่สำคัญที่สุด ใน Nikko สร้างขึ้นโดยพระ Shodo Shonin ผู้ที่นำศาสนามาสู่ Nikko ภายในวัดมีพระพุทธรูปที่ทำจากไม้ปิดด้านนอกด้วยทองและรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในวัดมีรูปปั้น นก ม้า มีตารางวันเกิดว่าตรงกับรูปปั้นองค์ไหน และมีพระพุทธรูปหล่อเทพเจ้าประดิษฐานอยู่ประมาณ 30 องค์ และข้างๆ มีสวน Shoyo-en ตั้งอยู่เยื้องซุ้มขายตั๋วตรงข้ามศาลาหลังใหญ่ของวัดรินโนจิ สวนตกแต่งในแบบญี่ปุ่นสมัยเอโดะ ด้านในร่มรื่นด้วยต้นไม้ที่หลากหลายชนิด หากมาช่วงฤดูใบไม้ที่เปลี่ยนสีทั่วทั้งสวนจะเห็นต้นเมเปิ้ลรอบรอบบ่อน้ำสีสันสดใสค่ะ ดูสวยงามมากค่ะ มาเที่ยววัดรินโนจิ เปิดทุกวันค่ะ
การเดินทาง : จากสถานี Nikko ของสาย JR Tobusen ใช้รถโดยสาร Tobu รถ “World Heritage tour” เปิดทุกวันค่ะ
ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine)
ศาลเจ้าแห่งนี้มีเจดีย์สีแดง 5 ชั้น เป็นศาลเจ้าที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นที่คุ้มครองภูตผีปีศาจมาจากทางทิศเหนือ มีลวดลายสวยงามมาก เป็นเจดีย์เก่าแก่ สร้างขึ้นในค.ศ. 1650 มาเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาที่เมือง Nikko อาคารแต่ละหลังสร้างจากไม้ลงลายสีทอง แกะสลักสวยงามตามแบบญี่ปุ่น บรรยากาศรอบๆ ศาลเจ้าเป็นป่าสนอากาศเย็นสบาย ที่ทางเข้าศาลเจ้าโทโชกุจะเป็นซุ้มประตุโยเมมงเป็นประตูใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก ทางเข้าศาลเจ้าโทโชกุมีเสา 12 ต้นรอบรับน้ำหนักเอาไว้สวยงามมากมีขนาดใหญ่ อาคารไม้ด้านล่างมีรูปลิงแกะสลัก 3 ตัวความหมายไม่พูดในสิ่งไม่ดีเป็นปริศนาธรรม ลิงแกะสลัก 3 ตัวนี้ แกะสลักโดย Hidari jingoro มีประตูขึ้นไปทางสุสาน เป็นรูปแมวหลับ เป็นฝีมือของ Hidair Jingoro คนเดียวกันกับที่แกะสลัก ปิดหู ปิดปาก ปิดตา ขึ้นไปสุสานด้วยบันได 200 ขั้น เรียกชื่อว่า สุสานโชกุนอิเอะยาสุ ผู้ก่อตั้งเมือเอโดะให้เป็นเมืองหลวงใหม่ คือโตเกียว เหมาะที่จะมาเที่ยวในช่วงต้นเดือน-กลางเดือนพฤศจิกายน
การเดินทาง :รถเมล์ จากสถานี Tobu and JR Nikko Stations ใช้เวลา 10 นี ค่าโดยสาร 310 เยน สำหรับเที่ยวเดียวหรือ 500 เยน สำหรับ ไป-กลับ เปิด- ปิด เวลา 8.00น.-16.00 น.
วัดอิเอะมิตสุ ไทยูอิน (lemitsu Taiuuin Temple)
จากศาลเจ้าไปเที่ยววัดอิเอะมิตสุ ไทยูอินที่อยู่ใกล้กันสิ่งแรกที่จะได้เห็นคือ ศาลาหลังใหญ่ 2 หลังมีรูปทรงและขนาดเท่ากัน แต่ต่างกันที่ภายในตกแต่งตามศิลปะแบบญี่ปุ่น และอีกแบบคือ ศาลา Hokki-do นั้นมีการตกแต่งแบบจีน อาคารทั้งสองมีชื่อเรียกว่า”วัดแฝด “ ที่วัดแห่งนี้มีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ใช้ได้ทั้งดื่ม และ บ้วนปากล้างมือ ล้างหน้า ชำระร่างกาย และจิตใจให้สะอาด ด้านหน้าประตูทางเข้าวัดมีความอลังการไม่แพ้วัดอะซากุสะเลย มีเทพเจ้าแห่งสายฟ้าและเทพเจ้าแห่งสายลมและมีประตูที่สำคัญคือประตูโกกะม่อน ใช้ศิลปะแบบสมัยราชวงศ์หมิงทำด้วยโคมสำริด สีเขียวสลับทองตั้งอยู่ทั้งสองข้าง ชมความงามแล้วสมกับเป็นโบราณสถานมรดกโลกเลยทีเดียว
การเดินทาง :เดินทางจาก Toshogu มาทางตะวันตก ประมาณ 200 เมตร ใช้เวลา 30-40 นาที เปิดทุกวัน
น้ำตกเคกอน (Kegone Falls)
น้ำตกเคกอน มีความสูงเกือบ 100เมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น และมาเที่ยวยังได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงกลาง –ปลายเดือนตุลาคม ในฤดูหนาวน้ำตกก็จะแข็งตัวค้างไว้น้ำตกแห่งนี้มีหมอกควันมีร้านขายอาหารมีปลาเผาเกลือ เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุด น้ำตกแห่งนี้ไหลไปในหุบเหวที่ลึกกว่า 96 เมตร การยืนมองน้ำตกนี้ ต่างกับการมองน้ำตกที่อื่น ตรงที่เรายืนอยู่บนระดับเดียวกับสายน้ำที่ตกที่น้ำตกแห่งนี้มีลิฟท์ให้ลงไปดูด้านล่างด้วยค่ะ มาชมวิว Akechidair ได้ด้วย ตรงข้ามกับน้ำตกเคกอน เป็นจุดชมวิวที่เป็นวิวธรรมชาติแบบเชิงกว้างของนิกโก้ จุดเด่นของน้ำตกคือด้านหนึ่งเป็นสถานที่มีสีสันในฤดูใบไม้ร่วงเพราะต้นไม้โดยรอบน้ำตกทั้งหมดละลายเป็นสีส้มสดใสและมีสีสันมากที่สุดในช่วงปลายเดือน ตุลาคม ค่ะมาเที่ยวชมกันสิค่ะ
การเดินทาง : รถไฟใช้เวลา 40 นาที โดยรถโดยสารจากสถานี นิกโก้ บนสายJR Tobuเปิดทุกวัน เวลา 9.00-16.30 น.
ทะเลสาบซูเซนจิ Chuzenji
ทะเลสาบซูเซนจิอยู่ทางทิศเหนือของเมือง นิกโก้ ฐานภูเขาไฟนันไต มีความลึกประมาณ 163เมตร ทะเลสาบนี้เกิดจากระเบิดเมื่อประมาณ 20,000 ที่ผ่านมามันเป็นภูเขาไฟลูกหนึ่งที่ได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีลาวามากมาย ไหลไปตามหุบเขาจนฟอร์มตัวเป็นทะเลสาบขึ้นมา มาท่องเที่ยวสามารถเดินได้รอบทะเลสาบหรือล่องเรือจาก Chuzenijiko Onsen เพื่อเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ หากล่องเรือใช้เวลา 1 ชั่วโมง และรอบๆทะเลสาบมีเรือเป็ดให้ปั่นเล่นมาเที่ยวที่ทะเลสาบแห่งนี้มีข้าวกล่องของเมืองนิโก้เป็นที่นิยมมากมียอดขายวันละ 300กล่อง มานั่งทานข้าชมวิวทะเลสาบเปลี่ยนบรรยากาศกันค่ะ
การเดินทาง : จากป้ายรถเมล์ หน้าสถานีรถไฟโทยุ ลงป้าย Chuzenji onsen ใช้เวลา 1 ชม.
ภูเขาฮันเกะสึยามะ (Mount Hangetsuyama)
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลสาบชูเซนจิ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ยอดนิยมคือชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงกลางเดือนตุลาคม –ต้นเดือนพฤศจิกายน หากว่าไม่ต้องการปืนขึ้นไปต้องเช่ารถยนต์ขับไปประมาณ 30 นาที
การเดินทาง : จากสถานี Chuzenjiko Onsen โดยสารรถบัสลงที่ Hangetsuyama Parking Lot ใช้เวลา 20 นาที
ออนเซน Yomoto Onsen
เป็นสปากลางป่า กลางภูเขา ที่นี่ใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่นประมาณปลายเดือน กันยายน –ต้นตุลาคมน้ำพุร้อนอยู่ด้านหลังของอุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้ ทิศเหนือเป็นที่ตั้งของวัดออเซนจิ มีห้องอาบน้ำไว้ให้บริการเล็กๆค่ะ บ่อที่เป็นน้ำพุเดือดได้กลิ่นกำมะถันอย่างชัดเจน
การเดินทาง : จากสถานี Tobu Nikko Station โดยสารรถบัส Tobu bus ไปลงที่ Yumoto Onsen ใช้เวลา 80 นาที
สะพาน Shinkyo
สะพานที่มีความหมายว่าสะพานศักดิ์สิทธิ์ สะพานแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเมืองมรดกโลกนิกโก้ จากสะพานนี้สามารถเดินไปยังวัดรินโนจิ ได้ เป็นสะพานไม้โค้งแบบโบราณทาด้วยสีแดงหลังสะพานเป็นวิวภูเขาอีกฝั่งของสะพานติดถนน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนตุลาคมจะเป็นใบไม้สีแดง เหลือง เขียวสลับกันเป็นฉากหลังของสะพานชินเดียวนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่สะพานนี้ การขึ้นไปบนสะพานต้องเสียค่าขึ้น 300เยน หากไม่อยากเสียเงินก็ยืนถ่ายรูปที่สะพานปูนข้างๆได้ สะพานนี้ถูกจัดให้เป็นสะพานไม้โบราณที่ดีที่สุดเป็นหนึ่งในอันดับสามของญี่ปุ่น
การเดินทาง : รถเมล์ จากสถานี Tobu และ JR Nikko Stations ใช้เวลา 5 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 200เยน ลงป้าย Shinkyo bus stop เปิดทุกวันค่ะ
อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้(Okunikko)
อุทยานแห่งชาติโอคุนิกโก้ มีพื้นที่ภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองนิกโก้ มีทิวทัศน์ที่เป็นธรรมชาติสวยงามมีทะเลสาบ น้ำตก ที่ลุ่ม ลำธาร และน้ำพุร้อน
Nikko Cedar Avenue ถนนอุโมงค์ต้นสนยาวที่สุดในโลก
Cedar Avenue หรือถนนต้นสนที่เมืองนิกโก้ เป็นถนนเก่าแก่ที่มีต้นสนซีดาร์ (Cedar ) ญี่ปุ่นขนาดยักษ์อายุมากกว่า 400ปี ขนาบทั้ง 2ด้าน มีความยาวมากที่สุดในโลกโดยกินเนสบุ๊ค มีความยาว 37 กิโลเมตร มีต้นสนประมาณ 13,000 ต้น สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ เพื่อเป็นถนนที่มุ่งตรงไปสู่ศาลเจ้าโทโชกุ ศาลเจ้าชื่อดังของเมืองนิกโก้ ความยิ่งใหญ่ของอุโมงค์ต้นสนนี้ สร้างใช้เวลา 20ปีในการปลูกต้นสนซีด่าร์ทั้งหมดตลอดทาง มีอยู่ถึง 2 แสนต้น แต่ถูกตัดมาใช้งานบ้าง และที่อุโมงค์ต้นสนนี้เป็นหนึ่งในมรดกของชาติญี่ปุ่นที่ได้รับการรักษาเอาไว้ค่ะมาเที่ยวเดินทางรถยนต์ไม่สามารถเข้ามาวิ่งได้ บรรยากาศจึงเป็นธรรมชาติมาก
การเดินทาง :รถเมล์ จากสถานี Tobu and JR Nikko Stations ใช้เวลา 10 นาที ค่าโดยสาร 310 เยน สำหรับเที่ยวเดียวหรือ 500 เยน สำหรับ ไป-กลับ เปิด- ปิด เวลา 8.00น.-16.00 น.
การเดินทางไป Nikko
นั่งรถไฟสาย Utsunomiya line จากสถานีJR Ueno ไปลงสถานี JR Utsunomiya แล้วต่อรถไฟสาย Nikko Line ไปลงยังสถานี JR Nikko เสียค่ารถไฟ 2,520เยน สามารถใช้JR Pass ได้หมดเหมือนกัน
เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับเมืองมรดกโลกนิกโก้ที่ไปเที่ยวเช้า- กลับเย็นได้ มีสถานที่เป็นที่เก่าแก่โบราคนญี่ปุ่นภาคภูมิใจ และยังเป็นแหล่งธรรมชาติซึ่งถูกยกย่องให้เป็นสวรรค์บนดิน เดินทางมาเที่ยวไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก แค่ 140 กิโลเมตร หาเวลาแวะมาเที่ยวกันนะค่ะสำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ